เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ศูนย์วิจัยการลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย (TJRI) ดำเนินกิจการโดย mediator เข้าร่วม Talk Stage ในหัวข้อ “เปิดมุมมองเทคโนโลยีด้านความยั่งยืนของสตาร์ทอัพญี่ปุ่น” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในงานมหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน “Sustainability Expo 2023(SX2023)” โดยได้รับเกียรติจาก 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท แอลจี ไบโอ (Algae Bio), บริษัท โพลาร์ สตาร์ สเปซ (Polar Star Space) และบริษัท ซากริ (Sagri)
ในพิธีเปิด คุณกันตธร ตัวแทนบริษัท mediator ผู้ดำเนินรายการและล่าม กล่าวเปิดงานสัมมนาว่า “การจัดงานสัมมนาและเข้าร่วมในฐานะ TJRI ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากความต้องการของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน SX2023 ที่กล่าวว่า ‘ทั้งที่ไทยมีบริษัทญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ภายในงาน SX2023 กลับไม่มีบริษัทญี่ปุ่นมาเข้าร่วมสัมมนาในช่วง Talk Stage จึงอยากให้บริษัทญี่ปุ่นมาเข้าร่วมด้วยเช่นกัน’ ” และเผยถึงเป้าหมายของงานสัมมนาในครั้งนี้ “เพื่อให้บริษัทไทยรับรู้ว่าบริษัทญี่ปุ่นมีเทคโนโลยีที่สามารถแก้ไขปัญหาที่ไทยต้องเผชิญในงาน SX2023 และสร้างคอนเนคชั่นร่วมกันระหว่างญี่ปุ่น-ไทย” โดยผู้ร่วมบรรยายทั้ง 3 บริษัทในครั้งนี้ จะเปิดรับพูดคุยทางธุรกิจสำหรับท่านที่สนใจในเทคโนโลยีของแต่ละบริษัทด้วย
ภายในงานนี้ แต่ละบริษัทได้นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ พร้อมทั้งตัวอย่างการใช้งานที่ผ่านมา และผลการดำเนินงาน คุณอามาเนะ คิมูระ CEO จาก บริษัท แอลจี ไบโอ (Algae Bio) จำกัด บริษัทที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยการประยุกต์ใช้สาหร่าย ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรใหม่ที่ยั่งยืนในหลายอุตสาหกรรม คุณมาซาชิ คาวากูชิ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท โพลาร์ สตาร์ สเปซ (Polar Star Space) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อาทิ ด้านการเกษตร โดยการใช้เทคโนโลยีการสำรวจข้อมูลระยะไกล (Remote sensing) เช่น ดาวเทียมขนาดเล็กและโดรน และคุณคาซูกิ ซากาโมโตะ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ซากริ (Sagri) ที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเกษตรและความผันผวนของภูมิอากาศโลก ทั้งยังให้บริการวิเคราะห์ดินโดยใช้ข้อมูลดาวเทียมและปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ระหว่างช่วงเสวนา คุณคิมูระ บริษัท แอลจี ไบโอ เผยว่า “ทางบริษัทเคยใช้สาหร่ายในโครงการต่าง ๆ มามากกว่า 20 โครงการในประเทศญี่ปุ่น โครงการส่วนใหญ่เกี่ยวกับ CCUS เพื่อสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และกำลังมุ่งเน้นเรื่องเทคโนโลยี Upcycle เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ผลิตจากสาหร่ายซึ่งเติบโตได้เป็นอย่างดีด้วยน้ำเสียจากโรงงาน และพลาสติกชีวภาพ ขณะนี้เรากำลังเจรจาธุรกิจกับบริษัทไทยรายใหญ่หลายแห่ง และต้องการสร้างความร่วมมือกับบริษัทอื่น ๆ ไม่เพียงแต่ในไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทญี่ปุ่นที่มีโรงงานในประเทศไทย ทั้งยังต้องการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่ใช้สาหร่ายอีกด้วย”
คุณคาวากูชิ บริษัท โพลาร์ สตาร์ สเปซ เผย “ในปัจจุบัน ได้ใช้เทคโนโลยี Remote sensing ในเกษตรปาล์มน้ำมันของอินโดนีเซียและมาเลเซีย ด้วยดาวเทียมขนาดเล็กและโดรน เพื่อค้นหาโรคที่มีในปาล์มน้ำมัน โดยมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาการระบาดของโรค ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถใช้ได้กับพืชพรรณชนิดอื่นด้วย ทั้งยังช่วยลดการสูญเสียในกระบวนการเพาะปลูกได้อย่างครอบคลุม ในอนาคต ทางบริษัทต้องการนำสิ่งนี้ไปประยุกต์ใช้กับพื้นที่เพาะปลูกในประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่อันดับสองรองจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย” อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ Co-creation ว่า “เราสามารถสร้างธุรกิจใหม่ที่แก้ปัญหาสังคมได้ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการตรวจหาโรคในพืชตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและร่วมมือกับบริษัทเคมีภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยียาเพื่อป้องกันโรคพืช”
คุณซากาโมโตะ บริษัท ซากริ ทิ้งท้ายว่า “ถ้าสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีให้น้อยลง โดยใช้ข้อมูลดาวเทียมในการวิเคราะห์หน้าดินของพื้นที่เกษตรกรรม ก็จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ ทางบริษัทใช้เทคโนโลยีนี้พร้อมดำเนินธุรกิจคาร์บอนเครติต(เป็นระบบซื้อขาย โดยใช้สิทธิที่เกิดจากการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาเปลี่ยนเป็นคาร์บอนเครดิต) และทำ PoC ในไทยก็เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกำลังเตรียมตัวเปิดให้บริการ นอกจากนี้ปัญหาเกษตรกรมีรายได้ต่ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเช่น ประเทศไทย ก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง จึงอยากให้ใช้ระบบคาร์บอนเครดิตนี้เพื่อสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร ทั้งยังต้องการร่วมมือกับธุรกิจเกษตรกรรมที่มีเครือข่ายกับเกษตรกร และพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหาร และอยากที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการเกษตรในไทยและปัญหาสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน”
ข้อมูลงานสัมมนา
SX2023 x TJRI Seminar
“Exploring Sustainability Initiatives from Japanese Startups”
วันที่: | วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2566 11:00-12:00 น. |
---|---|
สถานที่: | ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Talk Stage |
เกี่ยวกับ Sustainability Expo 2023
นอกจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) แล้ว ก็มีอีกพาร์ทเนอร์หลัก 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ภายใต้กลุ่มทีซีซี, บริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทอื่น ๆ กว่า 100 แห่ง ถือเป็นงานด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในอาเซียนที่ดึงดูดบริษัทไทยจากทั่วโลกและเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว
ช่วงเวลา: | วันศุกร์ ที่ 29 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2566 – วันอาทิตย์ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2566 |
---|---|
สถานที่: | ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์(QSNCC) |
เว็บไซต์ทางการ: | www.sustainabilityexpo.com |