The Great Reset : ‘Toppan’ ยกระดับ Workplace ด้วย IoA เปลี่ยนพื้นที่ทำงานสู่ไลฟ์สไตล์การทำงานในโลกแห่งอนาคต - mediator

Blog The Great Reset : ‘Toppan’ ยกระดับ Workplace ด้วย IoA เปลี่ยนพื้นที่ทำงานสู่ไลฟ์สไตล์การทำงานในโลกแห่งอนาคต

30.11.2021

TJRI
The Great Reset : ‘Toppan’ ยกระดับ Workplace ด้วย IoA เปลี่ยนพื้นที่ทำงานสู่ไลฟ์สไตล์การทำงานในโลกแห่งอนาคตのメイン画像

ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา วิกฤติการณ์โรคระบาดได้ส่งผลกระทบต่อคนทั้งโลก ไม่เฉพาะรูปแบบการใช้ชีวิตเท่านั้น แม้แต่ในด้านธุรกิจและการทำงาน ทั้งบริษัท องค์กร และคนทำงานทั่วโลก ต่างยังต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่เช่นเดียวกัน ดังนั้น “Toppan” บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นเก่าแก่และมีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 100 ปี จะมาแนะนำแนวคิดในการออกแบบพื้นที่ทำงานแห่งโลกอนาคตโดยใช้ IoA (Internet of Abilities) เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่ในยุค New Normal แต่เป็นวิถีการทำงานแห่งอนาคตในยุค ‘Next Normal’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

ทำความรู้จัก ‘Toppan’ บริษัทด้านการพิมพ์ การสื่อสาร และเทคโนโลยีชั้นนำอันดับต้นๆ ของโลก

Toppan Inc. เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2443 ในฐานะบริษัทการพิมพ์แบบร่วมทุน โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ที่ล้ำสมัยอย่าง ‘Elheto’ ซึ่งในยุคนั้น Toppan ถือได้ว่าเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมการพิมพ์ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว จากนั้น Toppan ได้ขยายธุรกิจไปยังสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย จนมาในปี พ.ศ. 2562 ได้ขยายธุรกิจมาสู่ประเทศไทยในชื่อ Toppan (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจใหม่ ตั้งแต่การออกแบบพื้นที่เพื่อการสื่อสาร (Space Communication) จดหมายเหตุดิจิทัลและการส่งเสริมการท่องเที่ยว (Digital Archive & Tourism Inbound) ตลอดจนการสื่อสารการตลาด (Marketing Communications) โดยปัจจุบัน Toppan กำลังมุ่งขยายธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการออกแบบพื้นที่เพื่อการสื่อสารที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่า โดยรวมเอา ICT หรือ Information and Communications Technology และ IoT หรือ Internet of things เข้ามาอยู่ในการออกแบบพื้นที่ ด้วยการบริการแบบ One-stop Service ที่นำเสนอบริการด้านการวิจัยการตลาด การสร้างการวางแผน การออกแบบภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การติดตั้ง ตลอดจนการก่อสร้างอย่างครบวงจร

The Great Reset : การปรับตัวสู่โลกการทำงานเวอร์ชั่นใหม่ ที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิม

ผลจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้บริษัทเอกชนทั่วไปหรือแม้แต่องค์กรภาครัฐเอง ต่างก็ต้องปรับรูปแบบการทำงานใหม่เพื่อให้กระบวนการทำงานยังคงดำเนินต่อได้อย่างราบรื่นและเกิดผลกระทบน้อยที่สุด จากเดิมที่การเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศถือเป็นเรื่องปกติ แต่โลกการทำงานหลังจากนี้จะมีการปรับใช้นวัตกรรมดิจิทัล (Digital Innovation) กันมากขึ้น เพื่อลดข้อจำกัดทางกายภาพที่เกิดขึ้นจากสภาวะบีบบังคับในการทำงานที่ออฟฟิศ และเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการสื่อสารในการทำงาน ให้สอดคล้องกับ New Normal โดยเฉพาะการ Work from Home ที่อาจไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างนวัตกรรมในองค์กร โดยองค์กรจะต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เน้นความคล่องตัว ยืดหยุ่น ลดการทำงานที่เป็นขั้นตอนลง ลดงานด้านเอกสารเพื่อให้ปรับตัวตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และเน้นเรื่องการสื่อสารกันในทีมให้มากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่เราอาจจะได้เห็นอย่างชัดเจนในยุค Post Covid-19 คือ การออกแบบฟังก์ชันพื้นที่การทำงานและโครงสร้างพื้นฐาน ให้พร้อมรองรับรูปแบบการทำงานที่หลากหลายได้จากทุกที่ ทุกเวลา และทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานในลักษณะ ‘Agile’ ให้มากขึ้น

เพราะ “Workplace” ไม่ใช่แค่ “Office” เราจะเปลี่ยนแปลงพื้นที่การทำงานในอนาคตอย่างไรให้สอดคล้องกับความต้องการของคนทำงานในปัจจุบัน?

นิยามของออฟฟิศแต่เดิม คือ สถานที่ทำงานที่มีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนตามแผนก โดยมีพนักงานนั่งทำงานตามโต๊ะประจำของตน และมีพื้นที่ส่วนกลางบางส่วนที่ใช้ร่วมกัน แต่ “Office” หลังยุค Post Covid-19 นี้ จะฉีกกฎภาพของออฟฟิศแบบเดิมๆ และแทนที่ด้วย “Workplace” ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ของรูปแบบการทำงานที่ไม่จำกัดนิยามอยู่แค่ออฟฟิศหรือสำนักงาน ทว่าเป็นพื้นที่การทำงานสุดสร้างสรรค์ โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความคล่องตัว รวมไปถึงการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของคนภายในองค์กรภายใต้ 3 เงื่อนไขสำคัญ ได้แก่ การออกแบบสร้างพื้นที่และสิ่งแวดล้อม การใช้เครื่องมือทางดิจิทัล และการสื่อสารที่มีความไหลลื่นผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาประยุกต์ใช้กับการทำงาน ไปจนถึงการแบ่งปันพื้นที่ในการทำงาน มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ร่วมกันด้วยแนวคิดออฟฟิศแบบเปิด (Co-Working Shared Office) ซึ่งแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ และอาจกลายเป็นวิถีใหม่ที่ปกติสำหรับการทำงานในอนาคต ซึ่งเป็นการเปลี่ยนออฟฟิศรูปแบบเดิมๆ สู่การเป็น Smart Office

Toppan เผยสูตรสำเร็จ Workplace of Tomorrow ต้องประกอบด้วย ABW + IT/IoT + IoA

การสร้าง Workplace เพื่อรองรับการทำงานในอนาคตและไลฟ์สไตล์ใหม่ที่มีความหลากหลายจะต้องประกอบไปด้วย 3 ปัจจัย ได้แก่

1) โซลูชันด้าน ABW (Activity Based Working) หรือแนวคิดของ Toppan ในการออกแบบและจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับรูปแบบงานและลักษณะการทำงานที่มีความหลากหลาย โดยอิงจากกิจกรรมของพนักงาน ตลอดจนการใช้พื้นที่ร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการและยุคสมัยที่เปลี่ยนไปท่ามกลางพื้นที่และสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการออกแบบอย่างเหมาะสม ได้แก่ การออกแบบพื้นที่ให้มีทั้งพื้นที่ทำงานส่วนตัว พื้นที่สำหรับระดมความคิดไอเดียร่วมกัน พื้นที่สำหรับการประชุมหรือสัมมนาขนาดกลาง พื้นที่สำหรับการประชุมหรือสัมมนาขนาดใหญ่ที่รองรับคนได้จำนวนมาก พื้นที่สำหรับพนักงานเอาไว้ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เป็นต้น ซึ่งการจัดการพื้นที่เพื่อให้เข้ากับลักษณะการทำงานของพนักงานและการมีพื้นที่ผ่อนคลายยังช่วยให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

2) โซลูชันด้าน IT และ IoT หรือการใช้งานเครื่องมือทางดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวก เช่น ระบบควบคุมอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Intelligent Control) เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Visual Management System) ระบบจองห้องประชุมอัจฉริยะ (Meeting Room Booking System) ระบบล็อคเกอร์อัจฉริยะ (Smart Locker) ระบบกระจกและฟิล์มไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Glass & Film) ระบบจองพื้นที่การทำงาน (Hot Seat Booking System) เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานได้มากขึ้น และยังสามารถนำข้อมูลจากระบบเหล่านี้ไปวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมกับธุรกิจในยุคดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้

3) โซลูชันด้าน IoA (Internet of Abilities) หรือการนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อในการทำงานเพื่อเพิ่มความคล่องตัว ลื่นไหล สร้างบรรยากาศในการทำงาน และลดความเครียดในพื้นที่ต่างๆ เช่น เทคโนโลยี CoeLux® ระบบแสงที่อาศัยนาโนเทคโนโลยีในการผลิตแสงเลียนแบบธรรมชาติซึ่งสามรถจำลองท้องฟ้าและแสงอาทิตย์ได้เหมือนจริงเป็นธรรมชาติ เทคโนโลยี Natural Window® จอภาพความละเอียดแบบ Ultra HD (4K) ที่ฉายภาพธรรมชาติอย่างสมจริง เทคโนโลยี Aroma Shooter® ระบบฉีดพ่นอโรม่าและสร้างกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย เทคโนโลยี IoA Pod พื้นที่สำหรับการสื่อสารหรือประชุมทางไกลที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี 5G หรือ IoA Robot หุ่นยนต์อัจฉริยะที่ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยพนักงานที่ทำงานที่บ้าน เสมือนเป็นตัวแทนของพนักงานหนึ่งคน ที่แม้จะไม่ได้มาทำงานที่ออฟฟิศ แต่ยังสามารถสื่อสารกับคนอื่นภายในออฟฟิศได้สะดวกเช่นเดิม ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้งานจริงแล้ว ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นเครื่องขับเคลื่อนความสร้างสรรค์ เกิดการสื่อสาร แลกเปลี่ยน และสร้างนวัตกรรมได้มากขึ้น

ด้วยเงื่อนไขและปัจจัยที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการแทรกแซงของเทคโนโลยีและโรคระบาด ย่อมทำให้รูปแบบการทำงานในทุกวันนี้แตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง องค์กรทุกแห่งจึงต้องเร่งหาวิธีปรับรูปแบบและแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับยุคเปลี่ยนผ่านที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อการหาจุดร่วมตรงกลางระหว่างองค์กรและคนทำงานด้วยการออกแบบ Workplace หรือพื้นที่ทำงานที่ไม่ยึดติดกับเวลาและสถานที่ ตลอดจนมีรูปแบบการทำงานที่ผ่อนคลายมากขึ้น และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพตามสมการที่ Toppan ได้คิดมาเป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยพัฒนาและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับองค์กร ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาได้ของโลกยุคปัจจุบัน

mediatorの画像
ผู้เขียน mediator

Related Blog บทความที่เกี่ยวข้อง

mediator newsletter

‘จดหมายข่าว’ กดสมัครรับข่าวสารเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ การลงทุนและธุรกิจของนักลงทุนญี่ปุ่นจากพวกเราก่อนใคร